แบล็คแจ็ค (Blackjack) เกมไพ่ออนไลน์ หนทางสู่เศรษฐี

แบล็คแจ็ค (Blackjack) - LuckyNiki

แบล็คแจ็ค (Blackjack) เป็นรูปแบบของเกมไพ่ ที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Twenty-one (ยี่สิบเอ็ด) เป็นเกมเดิมพันไพ่ที่ได้รับนิยมมากที่สุดในคาสิโนโซนยุโรป ซึ่งวัดผลแพ้ชนะด้วยผลรวมของแต้มในมือ ระหว่างเจ้ามือและผู้เล่น โดยผู้เล่นจะชนะก็ต่อเมื่อ มีแต้มมากกว่าเจ้ามือ และแต้มรวมทั้งหมดในมือจะต้องน้อยกว่าหรือเท่ากับ 21 แต้ม จะเรียกว่า แบล็คแจ็ค (Blackjack)  ซึ่งเป็นแต้มรวมที่สูงที่สุดสำหรับการเดิมพันรูปแบบนี้ ในทางกลับกัน หากแต้มในมือของผู้เล่นหรือนักพนันรวมไม่ถึงแต้มที่เจ้ามือมีจะถือว่าแพ้ทันที

ประวัติความเป็นมาของไพ่แบล็คแจ็ค

ไพ่แบล็คแจ็ค ก่อนที่จะมาให้ผู้เล่นได้เล่นกันในคาสิโนออนไลน์ Gclub Casino Online นั้นต้นกำเนิดที่แท้จริงยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่า เกมไพ่ 21 นี้มีการเล่นครั้งแรกก่อนปี 1700 หรือยาวนานถึงกว่าสี่ศตวรรษแล้ว ในเมืองเหมืองแร่ทางด้านตะวันตกของอเมริกา การเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็ค คือ ไพ่ 2 ใบ รวมแต้มได้ 21 แต้ม จะได้รับเงินเท่าต่อเท่า ยกเว้นไพ่ในมือจะเป็น แบล็คแจ็ค และ เอซ หรือ ดอกจิก โดยจะได้รับผลตอบแทน 10:1 จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อ Blackjack หรือ เกมไพ่ยี่สิบเอ็ด นั่นเอง

ปัจจุบันไพ่แบล็คแจ็ค จีคลับมือถือ คือการที่ในมือของผู้เล่นมีไพ่ 2 ใบแล้วรวมแต้มได้ 21 แต้ม จะเรียกว่าเป็น แบล็คแจ็ค และจ่ายในอัตรา 3:2 ส่วน 21 แต้มจากไพ่ 3 ใบ หรือมากกว่า จะทำการจ่ายเงินเท่าต่อเท่า ถ้านับแต้มรวมกันแล้วชนะเจ้ามือ โดยในแถบเอเชีย เกมไพ่แบล็คแจ็คนี้ จัดได้ว่าเป็นเกมอันดับต้นๆ ที่รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่แพ้ เกมไพ่โป๊กเกอร์ และ เกมไพ่บาคาร่า

การนับแต้มไพ่แบล็คแจ็ค

  • แต้มหน้าไพ่ เป็น A (Ace, เอช) มีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11 แต้มขึ้นอยู่กับหน้าไพ่ เช่น ถ้าไพ่มี A, 9 ในมือจะมีแต้มเป็น 10 หรือ 20 เป็นต้น
  • แต้มหน้าไพ่ เป็น 2-10 มีแต้ม ตามหน้าไพ่
  • ไพ่ J (แจ็ค), Q (ควีน, แหม่ม), K (คิง) มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
  • ตัวเลขต่างๆ เช่น 2,3,4 ไปจนถึง 10 นับแต้มตามตัวเลขหน้าไพ่ ส่วนตัวอักษรภาษาอังกฤษ J,Q,K นับเป็น 10 แต้ม และ A นับเป็น 11 แต้ม หรือจะนับเป็น 1 แต้มก็ได้แล้วแต่สถานการณ์ โดยผู้เล่นหรือนักพนันสามารถเลือกได้เอง เช่น เมื่อผู้เล่นหรือนักพนันได้ไพ่ K กับ A ผู้เล่นหรือนักพนันสามารถจะเลือกให้ A เท่ากับ 11 แต้ม เพื่อรวมกับ K จะได้ครบ 21 แต้มพอดีหรือได้ไพ่ 9 กับ 5 กับ 4 และ A ของผู้เล่นหรือนักพนันสามารถจะเลือกให้ A แทน 1 แต้ม เมื่อรวมกันจะได้ 20 แต้ม
Luckyniki แจกเครดิตฟรี 1000

เทคนิคการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค กับคาสิโนออนไลน์ Gclub Casino Online

วิธีการเล่นไพ่แบล็คแจ็คให้ได้เงินเทคนิคนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ การนับไพ่แบล็คแจ็ค เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งรูปแบบของการนับไพ่นั้น จะมีการนับไพ่ออกเป็น 2 ส่วน นั่นก็คือการแบ่งไพ่ เป็นไพ่ที่มีแต้มต่ำและไพ่ที่มีแต้มสูง ซึ่งไพ่ที่มีแต้มต่ำได้แก่ ไพ่ 2 – 6 ส่วนไพ่ที่มีแต้มสูงได้แก่ 10 ถึง K  และ A เมื่อผู้เล่นหรือนักพนันนับไพ่ 2 กลุ่มได้แล้ว การเข้าไปวางเดิมพันก็จะทำให้มีโอกาสมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเจ้ามือที่ผู้เล่นหรือนักพนันเข้าไปเล่นเดิมพันด้วยเช่นกัน เพราะว่าด้วยรูปแบบของเกมไพ่แบล็คแจ็ค แต่ละที่จะมีความแตกต่างกัน โดยปกติแล้วจะมีการใช้ไพ่ 4-8 สำรับ ดังนั้นการเล่นแต่ละครั้งจึงควรศึกษาเงื่อนไขก่อนจะเดิมพัน

ศัพท์ที่นิยมใช้ในการเดิมพันไพ่แบล็คแจ็ค

21 แต้ม หรือการได้ Blackjack

เมื่อไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นหรือนักพนันรวมกันได้ 21 แต้ม จะเรียกว่า แบล็คแจ็ค Gclub Casino และได้เงินรางวัล 1.5 เท่า เช่นเมื่อวางเงินเดิมพัน 100 บาท จะได้เงิน 150 บาท ไม่รวมต้นทุน คล้ายๆกับการเล่นป๊อกเด้ง คือการชนะการเดิมพันในรอบนั้นๆทันที

  • การอยู่ และจั่วไพ่ (Stand & Hit)

การอยู่และการเรียกไพ่เป็นพื้นฐานของการเล่นไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ โดยในกรณีที่ผู้เล่นหรือนักพนันได้แต้มไม่ถึงหรือเกิน 21 แต้มนั้น ผู้เล่นหรือนักพนันจะมีสิทธิ์เรียกไพ่ได้เรื่อยๆเรียกว่า “จั่ว” และถ้าหากผู้เล่นหรือนักพนันต้องการหยุดเรียกเมื่อพอใจแล้วเรียกว่า “อยู่” หรือ Stand นั่นเอง

  • การแทง 2 เท่า – Double Down

ผู้เล่นหรือนักพนันสามารถวางเดิมพันเพิ่มได้อีก 1 เท่า จากตัวอย่างข้างบน เช่น เมื่อเราขอแยกไพ่แล้ว มือที่ 1 ได้ไพ่ K วางเดิมพัน 100 ผู้เล่นหรือนักพนันสามารถเพิ่มเดิมพันเป็น 200 บาท ได้ แต่ว่ามีสิทธิเรียกไพ่ได้อีกแค่ใบเดียวเท่านั้น หากว่าผู้เล่นหรือนักพนันแต้มมากกว่าเจ้ามือจะได้อัตราจ่าย 1 ต่อ 1

  • การแยกไพ่ – Split

เมื่อผู้เล่นหรือนักพนันได้ไพ่ 2 ใบเหมือนกัน ผู้เล่นหรือนักพนันสามารถแยกไพ่ได้นั่นหมายความว่าผู้เล่นหรือนักพนันจะวางเดิมพันเป็น 2 มือ เช่น เดิมพันที่ 100 ได้ เมื่อผู้เล่นหรือนักพนันได้ไพ่ K กับ K สามารถแยกไพ่ได้ แต่ต้องวางเดิมพันเท่าเดิม จะกลายเป็น มือที่ 1 ได้ไพ่ K วางเดิมพัน 100 และ มือที่ 2 ได้ไพ่ K วางเดิมพัน 100 จากนั้นก็จะแจกไพ่ต่อตามปกติ แต่หากว่าผู้เล่นหรือนักพนันได้ไพ่ 21 จะไม่นับเป็น แบล็คแจ็ค หากว่าเจ้ามือได้ 21 แต้ม จะถือว่าไม่เสมอ และผู้เล่นหรือนักพนันจะแพ้เดิมพัน แต่หากว่าผู้เล่นหรือนักพนันแต้มมากกว่าเจ้ามือจะได้อัตราจ่าย 1 ต่อ 1

  • เดิมพันไพ่ประกัน – Insurance

เมื่อเจ้ามือเปิดไพ่ใบแรกของตัวเองเป็น A ผู้เล่นหรือนักพนันสามารถขอวางเงินประกันได้ โดยวางได้ครึ่งเดียวจากเงินเดิมพันที่วางไปแล้ว เช่นวางเดิมพัน 100 บาท ก็สามารถขอวางเงินประกันได้แค่ 50 บาท เท่านั้น เมื่อเจ้ามือเปิดไพ่ใบที่ 2 ได้ 10 ซึ่งเท่ากับ แบล็คแจ็ค ผู้เล่นหรือนักพนันจะชนะเดิมพัน และได้เงินรางวัลจากค่า 2 เท่า นั่นคือวางค่าเงินประกัน 50 บาท จะได้ 100 บาทไม่รวมทุน หากว่าเจ้ามือไม่ออก แบล็คแจ็คออนไลน์ ผู้เล่นหรือนักพนันจะเสียเงินประกัน และเกมดำเนินต่อ

ด้วยเหตุนี้ไพ่แบล็คแจ็ค จึงกลายเป็นเกมที่เหล่าเซียนพนันชื่นชอบนั้นมาจากรูปแบบการเล่นที่ไม่ตายตัว โดยผู้เล่นหรือนักพนันสามารถรู้จักใช้ไหวพริบต่างๆ เพื่อลดโอกาสเสียหรือขาดทุน และเพิ่มโอกาสในการชนะรางวัลได้ ไม่ว่าจะเป็นการแยกไพ่ เก็บไพ่ การยอมแพ้ หรือการเรียก สำหรับนักพนันมืออาชีพส่วนมากมักนิยมการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค เพราะว่าโอกาสได้เสียหรือผลลัพธ์ของการเดิมพัน สามารถควบคุมได้ อยู่ที่การตัดสินใจของผู้เล่นหรือนักพนันเอง เป็นเกมเดิมพันที่ใช้ดวงน้อยแต่เน้นการใช้ทักษะและไหวพริบเป็นหลัก

อย่ารอช้า มาลองเล่นแล้วสนุกไปกับแบล็คแจ็คได้แล้วที่นี้ Gclub Casino Online เกมคาสิโนออนไลน์ อันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น สมัครสมาชิกฟรี โบนัส 300% สูงสุด 30,000 บาทซึ่งหากทุกท่านซ้อมจน มั่นใจแล้ว อยากหาเงินกับ เกมแบล็คแจ็ค สามารถติดต่อเปิด User ได้ตามช่องทางด้านล่างได้เลย ซึ่งมีให้เลือกเล่นหลากหลายแบบ ทั้ง คาสิโนสด หรือ casino live เล่นโดยตรงกับ ดีลเลอร์ สาวสวย ยิงสดส่งตรงจาก บ่อนคาสิโนใช้เวลาในการ สมัคร LuckyNiki Thailand เพียง 5 นาทีเท่านั้น ก็สามารถเข้ามาร่วมลุ้น ร่วมสนุกกับ LuckyNiki Thailand เว็บพนันออนไลน์ อันดับ 1 ได้แล้ว แนะนำ เว็บทดลองเล่น แบล็คแจ็คออนไลน์ ในรูปแบบ เกมไพ่แบล็คแจ็ค เล่นฟรี ไม่เสียเงิน คลิก! 

สมัครสมาชิก ลักกี้นิกิ
Tags: , , , , , , , , , , , , , , , ,